ประวัติการเสียดินแดนของไทย 14 ครั้ง พอหรือยัง?
ในบทความ “ไทยอาจเสียดินแดนครั้งที่ 15” เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ผมจบลงว่า ไทยเสียดินแดนมาแล้ว 14 ครั้ง เสียดินแดนไปแล้ว 782,877 ตร.กม. จากพื้นที่ 1,294,992 ตร.กม. ในอดีต วันนี้ไทยเหลือพื้นที่เพียง 512,115 ตร.กม.
ก็มีผู้สนใจถามไถ่ ไทยเสียดินแดนไป 14 ครั้งอย่างไร ผมก็พยายามค้นจากเว็บเอามาปะติดต่อปะต่อเล่าสู่กันฟังเท่าที่ค้นได้ แต่ไม่สมบูรณ์นัก
ผมจำได้ว่าเคยไปดูที่พิพิธภัณฑ์ในพระบรมมหาราชวัง เห็นแผนที่ประเทศไทยตั้งแต่สมัย พระเจ้าตากสินมหาราช แล้วก็ตื่นตะลึง นึกไม่ถึงว่าราชอาณาจักรไทยสมัยก่อนจะยิ่งใหญ่ แผ่อิทธิผลขึ้นไปถึงประเทศกัมพูชาลาวจนถึงทางตอนใต้ของประเทศจีน ก่อนที่จะค่อยๆหดลงมาเรื่อยๆ
ไทยเสียดินแดน ครั้งที่ 1 ให้ อังกฤษ ในสมัยรัชกาลที่ 1 คือ เกาะหมาก หรือ ปีนัง ของมาเลเซียในปัจจุบัน พื้นที่ 375 ตร.กม. เพราะ พระยาไทรบุรี กบฏและให้อังกฤษเช่าเพื่อขอความคุ้มครอง แล้วอังกฤษก็ยึดเอาไปดื้อๆ
ครั้งที่ 2 เสียเมืองมะริด ทวาย ตะนาวศรี พื้นที่ 55,000 ตร.กม. ให้ พม่า ในรัชกาลที่ 1 มังสัจจาเจ้าเมืองทวายเป็นไส้สึกให้พม่า เพราะไม่พอใจที่กองทัพไทยเข้ายึดครอง และไทยไม่สามารถตีคืนกลับมาได้
ครั้งที่ 3 เสียเมืองบันทายมาศ หรือ ฮาเตียน ให้ ฝรั่งเศส ในรัชกาลที่ 3
ครั้งที่ 4 เสียเมืองแสนหวี เมืองพง เชียงตุง พื้นที่ 62,000 ตร.กม. ให้ พม่า สมัยรัชกาลที่ 3 ซึ่งเป็นดินแดนที่ไทยได้มาในรัชกาลที่ 1 โดยฝีมือพระเจ้ากาวิละ แต่ไทยไม่มีกำลังยึดครอง เพราะตอนนั้นเกิดกบฏเจ้าอนุวงศ์เวียง จันทน์และรัฐกลันตัน ไทรบุรี
ครั้งที่ 5 เสียรัฐเปรัค ให้ อังกฤษ ใน รัชกาลที่ 3 ปัจจุบันเป็นของมาเลเซีย
ครั้งที่ 6 เสียดินแดนสิบสองปันนา ให้ จีน พื้นที่ 90,000 ตร.กม. ใน รัชกาลที่ 4 เพราะเกิดการแย่งชิงอำนาจกันเองในเมืองเชียงรุ้ง รัชกาลที่ 3 ส่งกองทัพเชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน ไปตีเชียงตุงเพื่อต่อไปเชียงรุ้ง แต่ไม่สำเร็จ รัชกาลที่ 4 ก็ให้ยกกองทัพไปตีเชียงตุงอีก แต่ก็ไม่สำเร็จ เลยตกเป็นของจีนไป
ครั้งที่ 7 เสียดินแดนเขมรและเกาะ 6 เกาะ ให้ ฝรั่งเศส พื้นที่ 124,000 ตร.กม. ในสมัยรัชกาลที่ 4 เพราะไทยอ่อนแอเอง
ครั้งที่ 8 เสียดินแดนสิบสองจุไท (เมืองไล เมืองเชียงค้อ) ให้ ฝรั่งเศส พื้นที่ 87,000 ตร.กม. ใน รัชกาลที่ 5 พวกฮ่อก่อกบฏไทยส่งกองทัพไปปราบ แต่สองแม่ทัพไม่ถูกกัน ฝรั่งเศสฉวยโอกาสส่งทหารเข้าเมืองไล อ้างไปช่วยไทยปราบฮ่อ เมื่อปราบได้แล้ว ฝรั่งเศสไม่ยอมยกทัพกลับ ในที่สุดไทยต้องยอมให้ฝรั่งเศสรักษาเมืองไลและเชียงค้อ
ครั้งที่ 9 เสียดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำสาละวิน อันอุดมสมบูรณ์ให้ อังกฤษ ในรัชกาลที่ 5 พื้นที่ 30,000 ตร.กม. ปัจจุบันเป็นของพม่า
ครั้งที่ 10 เสียดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง หรือ ลาว ในปัจจุบันให้ ฝรั่งเศส ในรัชกาลที่ 5 พื้นที่ 143,000 ตร.กม. ซึ่งเป็นของไทยตั้งแต่สมัย สมเด็จพระนเรศวร เป็นการเสียดินแดนที่เจ็บปวดที่สุดเพราะถูกฝรั่งเศสยึดจันทบุรีและตราดบีบบังคับ
ครั้งที่ 11 เสียดินแดนฝั่งขวาแม่น้ำโขง ตรงข้ามเมืองหลวงพระบาง ให้ ฝรั่งเศส อีก พื้นที่ 25,500 ตร.กม. ใน รัชกาลที่ 5 เพื่อแลกกับจันทบุรี
ครั้งที่ 12 เสียมณฑลบูรพา ประกอบด้วย พระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ ให้ ฝรั่งเศส ในรัชกาลที่ 5 พื้นที่ 51,000 ตร.กม. เพื่อแลกกับ ตราด เกาะกง ด่านซ้าย แต่ฝรั่งเศสถอนทหารจากตราดและด่านซ้าย แต่ไม่คืนเกาะกงให้ไทย
ครั้งที่ 13 เสีย รัฐกลันตัน ตรังกานู ไทรบุรี ปริส ให้ อังกฤษ ในรัชกาลที่ 5 พื้นที่ 80,000 ตร.กม. เพื่อแลกกับอำนาจศาลไทย ปัจจุบันเป็นของมาเลเซีย
ครั้งที่ 14 เสีย ปราสาทพระวิหาร ให้ เขมร เมื่อ 15 มิถุนายน 2505 ใน รัชกาลที่ 9 พื้นที่ 2 ตร.กม. ตามคำพิพากษาศาลโลก ซึ่งไทยไม่ยอมรับ เพราะมีผู้พิพากษาสองคนมาจากประเทศคอมมิวนิสต์ ทำให้ เชื่อว่าเอนเอียง
ครั้งที่ 15 ไทยอาจเสียพื้นที่ปราสาทเขาพระวิหารให้เขมรอีก เพราะรัฐบาลสมัครเซ็นให้เขมรขึ้นทะเบียนมรดกโลก ทั้งที่ข้อพิพาทยังไม่จบ.
ที่มาhttp://www.praviharn.net/index.php?option=com_content&view=article&id=52&Itemid=66
ในบทความ “ไทยอาจเสียดินแดนครั้งที่ 15” เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ผมจบลงว่า ไทยเสียดินแดนมาแล้ว 14 ครั้ง เสียดินแดนไปแล้ว 782,877 ตร.กม. จากพื้นที่ 1,294,992 ตร.กม. ในอดีต วันนี้ไทยเหลือพื้นที่เพียง 512,115 ตร.กม.
ก็มีผู้สนใจถามไถ่ ไทยเสียดินแดนไป 14 ครั้งอย่างไร ผมก็พยายามค้นจากเว็บเอามาปะติดต่อปะต่อเล่าสู่กันฟังเท่าที่ค้นได้ แต่ไม่สมบูรณ์นัก
ผมจำได้ว่าเคยไปดูที่พิพิธภัณฑ์ในพระบรมมหาราชวัง เห็นแผนที่ประเทศไทยตั้งแต่สมัย พระเจ้าตากสินมหาราช แล้วก็ตื่นตะลึง นึกไม่ถึงว่าราชอาณาจักรไทยสมัยก่อนจะยิ่งใหญ่ แผ่อิทธิผลขึ้นไปถึงประเทศกัมพูชาลาวจนถึงทางตอนใต้ของประเทศจีน ก่อนที่จะค่อยๆหดลงมาเรื่อยๆ
ไทยเสียดินแดน ครั้งที่ 1 ให้ อังกฤษ ในสมัยรัชกาลที่ 1 คือ เกาะหมาก หรือ ปีนัง ของมาเลเซียในปัจจุบัน พื้นที่ 375 ตร.กม. เพราะ พระยาไทรบุรี กบฏและให้อังกฤษเช่าเพื่อขอความคุ้มครอง แล้วอังกฤษก็ยึดเอาไปดื้อๆ
ครั้งที่ 2 เสียเมืองมะริด ทวาย ตะนาวศรี พื้นที่ 55,000 ตร.กม. ให้ พม่า ในรัชกาลที่ 1 มังสัจจาเจ้าเมืองทวายเป็นไส้สึกให้พม่า เพราะไม่พอใจที่กองทัพไทยเข้ายึดครอง และไทยไม่สามารถตีคืนกลับมาได้
ครั้งที่ 3 เสียเมืองบันทายมาศ หรือ ฮาเตียน ให้ ฝรั่งเศส ในรัชกาลที่ 3
ครั้งที่ 4 เสียเมืองแสนหวี เมืองพง เชียงตุง พื้นที่ 62,000 ตร.กม. ให้ พม่า สมัยรัชกาลที่ 3 ซึ่งเป็นดินแดนที่ไทยได้มาในรัชกาลที่ 1 โดยฝีมือพระเจ้ากาวิละ แต่ไทยไม่มีกำลังยึดครอง เพราะตอนนั้นเกิดกบฏเจ้าอนุวงศ์เวียง จันทน์และรัฐกลันตัน ไทรบุรี
ครั้งที่ 5 เสียรัฐเปรัค ให้ อังกฤษ ใน รัชกาลที่ 3 ปัจจุบันเป็นของมาเลเซีย
ครั้งที่ 6 เสียดินแดนสิบสองปันนา ให้ จีน พื้นที่ 90,000 ตร.กม. ใน รัชกาลที่ 4 เพราะเกิดการแย่งชิงอำนาจกันเองในเมืองเชียงรุ้ง รัชกาลที่ 3 ส่งกองทัพเชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน ไปตีเชียงตุงเพื่อต่อไปเชียงรุ้ง แต่ไม่สำเร็จ รัชกาลที่ 4 ก็ให้ยกกองทัพไปตีเชียงตุงอีก แต่ก็ไม่สำเร็จ เลยตกเป็นของจีนไป
ครั้งที่ 7 เสียดินแดนเขมรและเกาะ 6 เกาะ ให้ ฝรั่งเศส พื้นที่ 124,000 ตร.กม. ในสมัยรัชกาลที่ 4 เพราะไทยอ่อนแอเอง
ครั้งที่ 8 เสียดินแดนสิบสองจุไท (เมืองไล เมืองเชียงค้อ) ให้ ฝรั่งเศส พื้นที่ 87,000 ตร.กม. ใน รัชกาลที่ 5 พวกฮ่อก่อกบฏไทยส่งกองทัพไปปราบ แต่สองแม่ทัพไม่ถูกกัน ฝรั่งเศสฉวยโอกาสส่งทหารเข้าเมืองไล อ้างไปช่วยไทยปราบฮ่อ เมื่อปราบได้แล้ว ฝรั่งเศสไม่ยอมยกทัพกลับ ในที่สุดไทยต้องยอมให้ฝรั่งเศสรักษาเมืองไลและเชียงค้อ
ครั้งที่ 9 เสียดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำสาละวิน อันอุดมสมบูรณ์ให้ อังกฤษ ในรัชกาลที่ 5 พื้นที่ 30,000 ตร.กม. ปัจจุบันเป็นของพม่า
ครั้งที่ 10 เสียดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง หรือ ลาว ในปัจจุบันให้ ฝรั่งเศส ในรัชกาลที่ 5 พื้นที่ 143,000 ตร.กม. ซึ่งเป็นของไทยตั้งแต่สมัย สมเด็จพระนเรศวร เป็นการเสียดินแดนที่เจ็บปวดที่สุดเพราะถูกฝรั่งเศสยึดจันทบุรีและตราดบีบบังคับ
ครั้งที่ 11 เสียดินแดนฝั่งขวาแม่น้ำโขง ตรงข้ามเมืองหลวงพระบาง ให้ ฝรั่งเศส อีก พื้นที่ 25,500 ตร.กม. ใน รัชกาลที่ 5 เพื่อแลกกับจันทบุรี
ครั้งที่ 12 เสียมณฑลบูรพา ประกอบด้วย พระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ ให้ ฝรั่งเศส ในรัชกาลที่ 5 พื้นที่ 51,000 ตร.กม. เพื่อแลกกับ ตราด เกาะกง ด่านซ้าย แต่ฝรั่งเศสถอนทหารจากตราดและด่านซ้าย แต่ไม่คืนเกาะกงให้ไทย
ครั้งที่ 13 เสีย รัฐกลันตัน ตรังกานู ไทรบุรี ปริส ให้ อังกฤษ ในรัชกาลที่ 5 พื้นที่ 80,000 ตร.กม. เพื่อแลกกับอำนาจศาลไทย ปัจจุบันเป็นของมาเลเซีย
ครั้งที่ 14 เสีย ปราสาทพระวิหาร ให้ เขมร เมื่อ 15 มิถุนายน 2505 ใน รัชกาลที่ 9 พื้นที่ 2 ตร.กม. ตามคำพิพากษาศาลโลก ซึ่งไทยไม่ยอมรับ เพราะมีผู้พิพากษาสองคนมาจากประเทศคอมมิวนิสต์ ทำให้ เชื่อว่าเอนเอียง
ครั้งที่ 15 ไทยอาจเสียพื้นที่ปราสาทเขาพระวิหารให้เขมรอีก เพราะรัฐบาลสมัครเซ็นให้เขมรขึ้นทะเบียนมรดกโลก ทั้งที่ข้อพิพาทยังไม่จบ.
ที่มาhttp://www.praviharn.net/index.php?option=com_content&view=article&id=52&Itemid=66
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น